ความเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนสำคัญหลายชนิดออกมาเพื่อช่วยรับมือกับสถานการณ์เครียดต่าง ๆ โดยเฉพาะฮอร์โมนที่หลั่งจากต่อมหมวกไตและระบบประสาทอัตโนมัติ
1. คอร์ติซอล (Cortisol)
คอร์ติซอลเป็นฮอร์โมนหลักที่หลั่งออกมาจากต่อมหมวกไตเมื่อเกิดความเครียด ฮอร์โมนนี้ช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด โดยกระตุ้นให้เกิดการเผาผลาญพลังงานมากขึ้น ทำให้ร่างกายมีพลังงานพร้อมใช้งานในสถานการณ์เครียด นอกจากนี้ คอร์ติซอลยังช่วยลดการอักเสบในร่างกาย แต่หากมีคอร์ติซอลมากเกินไปเป็นเวลานาน จะส่งผลให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง และเกิดผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว เช่น อาการอ่อนเพลีย ความดันโลหิตสูง และน้ำหนักเพิ่มขึ้น
2. อะดรีนาลีน (Adrenaline)
อะดรีนาลีนเป็นฮอร์โมนที่หลั่งจากต่อมหมวกไตเช่นกัน ซึ่งช่วยให้ร่างกายมีปฏิกิริยาตอบสนองเร็วขึ้นในสถานการณ์ตื่นเต้นหรือตกใจ ฮอร์โมนนี้เพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังกล้ามเนื้อ ขยายรูม่านตา และทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมต่อการตอบสนองแบบ “สู้หรือหนี” (Fight or Flight) แต่การมีอะดรีนาลีนสูงบ่อย ๆ จากความเครียดเรื้อรัง อาจทำให้เกิดปัญหาด้านหัวใจและหลอดเลือด
3. นอร์อะดรีนาลีน (Norepinephrine)
นอร์อะดรีนาลีนเป็นฮอร์โมนที่ทำงานร่วมกับอะดรีนาลีน ช่วยเพิ่มระดับความตื่นตัวและทำให้สมองตื่นตัวมากขึ้น มีผลให้ร่างกายพร้อมตอบสนองอย่างรวดเร็ว แต่ในกรณีที่เกิดความเครียดบ่อย ๆ ฮอร์โมนนี้อาจทำให้เกิดภาวะวิตกกังวล นอนไม่หลับ และความดันโลหิตสูง
4. ฮอร์โมนอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากความเครียด
ฮอร์โมนเพศ (เช่น เทสโทสเตอโรนและเอสโตรเจน) – ความเครียดส่งผลให้ระดับฮอร์โมนเพศลดลง ซึ่งส่งผลต่อความต้องการทางเพศและระบบสืบพันธุ์
ฮอร์โมนไทรอยด์ – ความเครียดอาจกระทบต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ ทำให้เกิดภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ไม่สมดุล ซึ่งส่งผลต่อพลังงานและการเผาผลาญในร่างกาย
ผลกระทบของการหลั่งฮอร์โมนความเครียดในระยะยาว
การมีฮอร์โมนคอร์ติซอลและอะดรีนาลีนสูงเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพเรื้อรัง เช่น ภาวะภูมิคุ้มกันอ่อนแอ โรคหัวใจและหลอดเลือด ปัญหาการนอนหลับ อาการปวดกล้ามเนื้อ และความเครียดทางจิตใจที่เพิ่มขึ้น